|
กทม.คิดเพิ่มค่าเวนคืนสร้างถนน (14 สิงหาคม 2552)
สูงกว่าราคาประเมิน ดึงใจประชาชนเสียสละนำร่องถนน ง.3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พ.ต.อ.สวัสดิ์ จำปาศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ได้ร่วมประชุมกับนายไสว โชติกะสุภา สมาชิกสภา กทม. (ส.ก.) เขตราษฎร์บูรณะ และบริษัทดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างถนนตามแนวผังเมือง ง.3 เชื่อมถนนสุขสวัสดิ์-พระราม ที่ 2-ถนนสามแยกตากสิน-ถนนเพชรเกษม-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ พ.ต.อ. สวัสดิ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนดูแลพื้นที่กลุ่มกรุงธนใต้ ซึ่ง กทม. มีโครงการเวนคืนเพื่อก่อสร้างถนนสายดังกล่าว เป็นถนนสายใหม่ทำให้ประชาชนจำนวนมากหวาดผวากับการเวนคืน แม้ที่ปรึกษาจะพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบไปใช้แนวสายทางอื่น ๆ เพื่อหลบบ้านเรือนประชาชน แต่ก็จะอันตรายต่อส่วนรวมเพราะเส้นทางโค้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้แนวไหนประชาชนจำนวนหนึ่งก็ต้องถูกเวนคืนราว 600 กว่าหลังคาเรือน จึงให้ที่ปรึกษาไปจัดทำแผนงานรายละเอียดเรื่องการจ่ายค่าเวนคืนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การจ่ายชดเชยรวดเร็วรวมทั้งช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น การขนย้าย การหาบ้านใหม่ รวมทั้งให้บริษัทที่ปรึกษาไปหารือกับสำนักการโยธาว่าสามารถจ่ายค่าชดเชยให้ประชาชนในราคาสูงกว่าราคาประเมินได้หรือไม่ ให้เป็นกรณีศึกษา เพราะอนาคต กทม. ต้องมีภารกิจเวนคืนถนนอีกหลายสายหากจ่ายค่าเวนคืนสูงกว่าราคาประเมิน จะลดปัญหาการต่อต้านเวนคืนเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนอยากจะเสียสละเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม และตนก็จะเสนอแนวคิดนี้ไปยังผู้บริหาร กทม. เพื่อผลักดันในการออกกฎระเบียบใหม่รองรับด้วย
พ.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้อีก 2 สัปดาห์ตนจะนัดประชุม ส.ส. ส.ก. ส.ข. ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนทั้งหมด โดยให้สำนักการโยธาเป็นเจ้าภาพและจัดประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการและการเร่งรัดจ่ายค่าเวนคืนรวมทั้งมาตรการให้การช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อไปเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบจะได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ความสับสนและความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะประชาชนไม่ได้รับฟังข้อมูลที่แท้จริงมั่นใจว่าภายใน 3 เดือนชาวบ้านในพื้นที่จะเข้าใจและให้ความร่วมมือกับ กทม. เดินหน้าโครงการต่อได้เพราะใน กทม. มีถนนหนทางใช้สะดวกสบายก็เพราะประชาชนที่เสียสละต้องถูกเวนคืนในอดีตทั้งนั้น.
กทม.จัดระเบียบขายสลากแยกคอกวัว 1คน/1แผงห้ามตั้งนอกแนวเขตพบจับ-ปรับทันที
พ.ต.อ. สวัสดิ์ จำปาศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดระเบียบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในบริเวณถนนราชดำเนินว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ให้ดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว ตนพร้อมที่ปรึกษาอีก 2 ท่าน ได้แก่ นาย ถนอม อ่อนเกตุพล และ นาย วสันต์ มีวงษ์ ร่วมประชุมกับ นายเสือชนะ สุดเจริญผู้อำนวยการเขตพระนคร และฝ่ายเทศกิจ รวมทั้งนางคาริษฐา จารุศิริ ประธานชมรมผู้ค้าสลากสี่แยกคอกวัว และผู้แทนผู้ค้าอีก 2 คน เพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม ซึ่งในเบื้องต้นทราบข้อมูลที่มาที่ไปเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของผู้ค้าที่ปัจจุบันที่ประมาณ 100 ราย ซึ่งได้ทำการค้าขายกันมาเป็นเวลานานกว่า 50-60ปี แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ถูกต้องเพราะที่เป็นอยู่นั้นเป็นการกะทำที่ไม่ถูกต้องทุกฝ่ายจึงต้องประชุมหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
ได้ข้อสรุปว่า เขตพระนครจะเข้าจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ทั้งหมดโดยกำหนดพื้นที่ตั้งวางเพียงด้านเดียว โดยให้ทางผู้ค้าสลากฯโดยชมรมฯไปจัดระเบียบผู้ขายจัดแผงค้ากันเองโดยบังคับให้มี 1คน/1แผงเท่านั้น และดูแลไม่ให้มีการวางขายนอกแนวที่เขตกำหนด หากเขตพบมีการตั้งวางขายนอกแนวกำหนดก็จะต้องจับ-ปรับตามกฎหมาย รวมทั้งผู้ค้าสลากฯจะต้องดูแลรักษาความสะอาดในบริเวณที่ค้าขายโดยให้ชมรมฯบริหารจัดการดูแลกันเอง พร้อมทั้งเป็นหูเป็นตาให้เขตเรื่องมิจฉาชีพด้วย นอกจากนี้จากเดิมที่ผู้ค้าสลากจะเริ่มขายใน เวลา 6.30-17.00 น. แต่เนื่องจากช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาเวลาเร่งด่วนที่มีการจราจรคับคั่งบนถนนราชดำเนินผู้คนจะใช้ทางเท้าในการสัญจรอาจสร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอื่นๆได้ จึงได้ขอให้เริ่มขายตั้งแต่ เวลา 8.30 น.เป็นต้นไป
สำหรับแนวทางแก้ไขระยะยาวกทม.จะประสานกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขอใช้พื้นที่ตึกแถว 3 ห้องที่ว่างอยู่ บริเวณถนนราชดำเนินกลางอยู่ระหว่างแยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถึงสี่แยกคอกวัว เพื่อจัดพื้นที่เป็นแหล่งขายสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยเฉพาะ หากทางสำนักทรัพย์สินฯตกลงให้กทม.ใช้พื้นที่ได้ก็จะเข้าปรับพื้นที่ให้ผู้ค้าเช่าทำการค้าขายต่อไป
“กทม.พยายามหาแนวทางที่เหมาะสมแต่ผู้ค้าก็ต้องให้ความร่วมมือที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนคนอื่นด้วย ทุกฝ่ายต้องอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งกทม.ให้เวลาผู้ค้าจัดระเบียบตังแต่วันที่ 7 กรกฎาคมเป็นต้นไปต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน” พ.ต.อ.สวัสดิ์กล่าว
|
ด้วยความปราถนาดีจาก